ชื่อ-สกุล นายวรัญญู จันใต้
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
โรงเรียนอนุกูลนารี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์
สอนรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.2/7
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 19 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์ ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.2/6 จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.2/7 จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ม.2/11 จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2/9 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2/10 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2/13 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ม.2/15 จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
รายวิชา การป้องกันการทุจริต ม.2/7 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมคณิตศาสตร์ จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมลูกเสือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะ คือ การคิดค้น พัฒนานวัตกรรม และปรับเปลี่ยน ให้คุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนสูงขึ้น เป็นแบบอย่างที่ดีและให้คำปรึกษาผู้อื่น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังใน วิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุกูลนารี ในปัจจุบันนักเรียนประสบปัญหาในการแก้โจทย์ปัญหาอย่างมาก นักเรียนไม่สามารถเปลี่ยนประโยคภาษาเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้ ไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ ไม่สามารถหาคำตอบจากโจทย์ปัญหาได้ และครูผู้สอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ส่วนมากมักประสบปัญหาที่ว่า จะจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างไร จึงจะทำให้นักเรียนมีความสุขไม่เครียด มีพัฒนาการด้านความคิด ประกอบกับให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี เป็นที่น่าพอใจ
ในการจัดเนื้อหาสาระหลักสูตรของวิชาคณิตศาสตร์ เป็นการจัดลำดับเนื้อหาของสาระการเรียนก่อนหลัง การจัดลำดับเนื้อหาการเรียนของวิชาคณิตศาสตร์เป็น การจัดในลักษณะของบันไดเวียน มีเนื้อหาที่เป็นพื้นฐาน และมีความต่อเนื่องกันไป หากผู้เรียนไม่สามารถเรียนรู้ และได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องของการเรียนในขั้นต้นๆ ซึ่งเป็นขั้นพื้นฐานการเรียนในเนื้อหาต่อๆ ไป ก็จะส่งผลให้ผู้เรียนมีโอกาสประสบความล้มเหลวในการเรียนคณิตศาสตร์ได้มาก
การจัดการเรียนการสอนแบบ TAI เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างการเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative learning) และการสอนรายบุคคล (Individualized instruction) เข้าด้วยกัน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเรียนรายบุคคล โดยใช้ลักษณะการเรียนเป็นกลุ่ม ให้นักเรียนในกลุ่มท การศึกษาและเรียนรู้ร่วมกันช่วยกัน ดำเนินการเรียนและมีการตรวจสอบร่วมกัน มีการร่วมมือช่วยเหลือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของการเรียนโดยผู้สอนจะให้ความเป็นอิสระแก่นักเรียนที่จะหาความรู้จากเพื่อนในกลุ่มการแก้ปัญหาก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา (Polya) เป็นแนวคิดของโพลยา ได้กล่าวถึงขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ไว้ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การทำความเข้าใจปัญหา (Understanding the problem) เป็นการมองไปที่ตัวปัญหาโดยพิจารณาว่าโจทย์ถามอะไร โจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้าง มีสาระความรู้ใดที่เกี่ยวข้องบ้าง มีความเพียงพอสา หรับการแก้ปัญหานั้นหรือไม่ และคำตอบของปัญหาจะอยู่ในรูปแบบใดจนกระทั่งสามารถสรุปปัญหาออกมาเป็นภาษาของตนเองได้ ถ้าหากยังไม่ชัดเจนในโจทย์อาจใช้วิธีการต่างๆ ช่วย เช่น การวาดรูป เขียนแผนภูมิ หรือแยกแยะสถานการณ์โดยเขียนสาระของปัญหาด้วยถ้อยคำของนักเรียนเอง แล้วแบ่งเงื่อนไขในโจทย์ออกเป็นส่วน ๆ ซึ่งจะทา ให้เข้าใจโจทย์ปัญหามากขึ้น ขั้นที่ 2 การวางแผนการแก้ปัญหา (Devising a plan) เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะต้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใด จะแก้ปัญหาอย่างไร ขั้นที่ 3 การดำเนินการตามแผน (Carrying out the plan) เป็นขั้นตอนที่ลงมือปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ได้คำตอบของปัญหาด้วยการรู้จักเลือกวิธีการคิดคำนวณ กฎ หรือสูตรที่เหมาะสมมาใช้โดยเริ่มจากการตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนเพิ่มเติมรายละเอียดต่างๆ ของแผนให้ชัดเจนแล้วลงมือปฏิบัติจนกระทั้งสามารถหาคา ตอบได้หรือค้นพบวิธีการแก้ปัญหาใหม่ ขั้นที่ 4 การตรวจสอบผล (Looking back) เป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหามองย้อนกลับไป ที่ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพิจารณาและตรวจดูว่าผลลัพธ์ถูกต้องและมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือ
กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา จะเป็นแนวทางให้นักเรียนแก้ปัญหาอย่างมีลำดับขั้นตอน และเมื่อนำมาจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา นักเรียนจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน โดยมีโอกาสให้นักเรียนมีการคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน มีหลักการของการวางแผนแก้ปัญหา นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น มีแรงจูงใจ มีการทำงานร่วมกับผู้อื่นและมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
จากเหตุผลดังกล่าว จึงมีความสนใจที่จะศึกษาและพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอนุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. พัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
3. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว กับเกณฑ์ร้อยละ 70
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 โรงเรียนอนุกูนารี จำนวน 42 คน โรงเรียนอนุกูนารี ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 โรงเรียนอนุกูนารี ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ทุกคน